ปัจจุบัน มีผู้มีความต้องการซื้อรถมือสองเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ และปัจจัยอื่นๆ และผู้ที่มีความต้องการขายรถก็มีมากเช่นเดียวกัน ในการซื้อขายรถยนต์มือสองนั้น ผู้ขายรถก็ต้องการขายให้ได้ราคาที่ต้องการ และในขณะเดียวกัน ผู้รับซื้อก็ต้องการกำไรจากการนำไปขายต่อด้วยเช่นเดียวกัน จึงมีการต่อรองราคากันอย่างถึงที่สุด
นอกจากเรื่องของราคา เรื่องการทำตามขั้นตอนการซื้อขายรถ และเอกสารต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ดังนั้น เราควรใส่ใจกับข้อควรรู้ในการซื้อขายรถยนต์มือสอง ข้อควรรู้ในการซื้อขายรถยนต์มือสองเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบได้ และป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา มี 5 ประการดังนี้
1. หลังจากดูรถ และตกลงซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ควรทำสัญญาซื้อขาย หรือมัดจำ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนใจของผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อเป็นค่าเสียเวลาให้ผู้ขาย หากผู้ซื้อเปลี่ยนใจไม่ซื้อรถของผู้ขาย หรือเป็นค่าปรับให้ผู้ซื้อ หากผู้ขายเปลี่ยนใจไม่ขายรถให้ผู้ซื้อ
2. ถ้าผู้ซื้อจัดไฟแนนซ์ ต้องจัดหาไฟแนนซ์ที่เป็นสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ และต้องเตรียมเอกสารด้านการเงินของผู้ซื้อ คือ สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สลิป หรือหนังสือรับรองเงินเดือน และรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน และเอกสารของผู้ค้ำประกัน (ในกรณีที่ต้องใช้) การดำเนินการจัดไฟแนนซ์ประมาณ 3-7 วันทำการ
3. เอกสารของผู้ขาย ถ้าเป็นชุดโอนลอย ต้องตรวจสอบ วันหมดอายุของบัตรประชาชนของผู้ขายที่เซ็นโอนลอยไว้ หากหมดอายุจะไม่สามารถทำการโอนที่่กรมขนส่งทางบกได้
4. ถ้าผู้ขายติดไฟแนนซ์ ต้องทำการปิดไฟแนนซ์ให้เรียบร้อยก่อนการซื้อขาย เพราะถ้าผู้ขายแจ้งว่าจะให้ผู้ซื้อปิดไฟแนนซ์ หรือผ่อนต่อทั้งตามสัญญาเดิม หรือทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาใหม่จะเกิดความเสี่ยง และไม่ปลอดภัยทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
5. ผู้ซื้อควรตรวจสอบสภาพรถว่ามีสภาพเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันตามสัญญาซื้อขายหรือไม่ ก่อนรับรถจากผู้ขาย และผู้ขายควรตรวจสอบจำนวนเงินสด หรือเช็คจากผู้ซื้อ หรือไฟแนนซ์ให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบรถให้ผู้ซื้อ
การทำสัญญาต่างๆ ให้เป็นลายลักษณ์อักษรและมีความถูกต้อง เป็นหลักฐานที่สำคัญในการซื้อขายรถ และช่วยให้เกิดความสบายใจทั้งต่อผู้ขายรถ และผู้ที่รับซื้อด้วย ดังนั้น ก่อนจะทำการซื้อขายรถยนต์มือสอง ควรศึกษาหาข้อมูล ขั้นตอน และการจัดการในด้านต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อนด้วยทุกครั้ง