ในการเลือกซื้อรถยนต์มือสอง คุณคงมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย และจะทำอย่างไรให้การซื้อรถมือสองของคุณนั้น มั่นใจได้ว่าได้รถที่มีคุณภาพ อยู่ในสภาพดี และสมกับราคาที่ต้องจ่ายไป สิ่งที่สำคัญมากไปกว่าความถูกใจและความสวยงาม คือสมรรถนะในการขับเคลื่อน หรือเครื่องยนต์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักในการใช้รถ
ดังนั้น ในการซื้อรถยนต์มือสอง สิ่งที่ต้องทำก็คือการตรวจเช็คเครื่องยนต์ และพยายามทดลองขับให้ครบทุกสภาพถนนเท่าที่จะทำได้ นอกจากการทดลองขับดูสภาพเครื่องยนต์ และความผิดปกติ รวมถึงการตรวจเช็คเครื่องยนต์ที่ควรทำอยู่แล้ว ก็ควรตรวจเช็คสภาพเบื้องต้นของรถภายนอก และภายในอย่างละเอียดด้วย
การตรวจเช็คสภาพภายนอก
1. ตรวจสภาพโครงสร้างรถยนต์โดยรวม สภาพรถยนต์ไม่ยุบบิดเบี้ยวจากการเกิดอุบัติเหตุ
2. รถยนต์ผ่านการเกิดอุบัติเหตุมา อาจสังเกตได้ หลายวิธี เช่น การเคาะที่ส่วนตัวถังรอบๆ คันรถโดยฟังเสียงว่ามีความโปร่งเท่ากันหรือไม่ ส่วนรถยนต์ที่เคยทำสีนั้นจะมีเสียงทึบๆ แต่ถ้ามีการเปลี่ยนทั้งชิ้นวิธีนี้คงไม่ได้ผลเท่าที่ควร
3. ตรวจเช็คตามขอบกระจก ขอบประตู รถยนต์ว่ามีการบิดงอหรือไม่ รวมถึงส่วนที่เป็นขอบยางต่างๆ
4. ตรวจดูสีรถยนต์ว่าตรงกับสมุดทะเบียนหรือไม่ อาจมีปัญหาในการโอนได้
5. เช็คช่วงล่าง เช็คว่ามีสนิมหรือผุ หรืออาจเป็นรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมมาก็ได้
การตรวจเช็คสภาพภายใน
1. ตรวจสอบอุปกรณ์ภายในรถยนต์ว่ายังใช้งานได้ดีปกติ
2. สังเกตอุปกรณ์ต่างๆว่า ลักษณะที่เป็นเหมาะสมกับการใช้งานมีหรือเปล่า เช่น ถ้าคันเร่งหรือคลัทช์สึกแต่เลขไมล์น้อยแสดงว่าผิดสังเกต อาจสันนิษฐานได้ว่ามีการกลับเลขไมล์
3. เช็คดูห้องโดยสารภายในโดยดูตามตะเข็บต่างๆว่าเป็นแนวเรียบหรือไม่ อาจต้องเปิดดูตามพรม ถ้าเป็นไปได้
4. บริเวณห้องเก็บของท้ายรถ ตรวจสอบดูตามตะเข็บ ต้องมีความสมบูรณ์แนวตะเข็บต้องเรียบเนียน
5. ตรวจเช็คยางอะไหล่ และเครื่องมือต่างๆว่ามีครบหรือไม่ ทั้งแม่แรง ประแจต่างๆ
6. ระบบแอร์ไม่ควรมีเสียงดังของพัดลม และคอมเพรสเซอร์
หากคุณกำลังจะซื้อรถมือสอง ลองนำสิ่งที่ต้องตรวจเช็คทั้งภายในและภายนอกเหล่านี้ไปใช้ดูนะครับ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของรถที่จะได้มา