ซื้อรถมือสองมา ควรดูแลอย่างไรบ้าง

หลายคนใช้รถยนต์มือสองมายาวนาน และบางคนก็เพิ่งจะได้เป็นเจ้าของรถยนต์มือสอง ไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็ตาม คุณก็ควรดูแลรถที่ได้มาอย่างดีที่สุด เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า

ไม่ว่าจะรถใหม่ หรือรถมือสอง ก็ล้วนแล้วแต่มีระยะเวลาในการบำรุงดูแลทั้งสิ้น แต่หากคุณเพิ่งได้รถมือสองมา สิ่งที่คุณควรทำ มีดังนี้

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ควรนำรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำมันเฟืองท้ายใหม่ก่อน พร้อมเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องด้วยก็จะเป็นการดีและปลอดภัยที่สุด เพราะส่วนใหญ่เต็นท์รถต่างๆ หรือผู้ขายรถมือสองมักยังไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันต่างๆ เหล่านี้มาให้

สายพานไทมิ่ง
หรือที่เขาเรียกว่าสวยพานราวลิ้น ต้องตรวจสอบดูว่าเปลี่ยนมานานแล้วหรือยัง โดยอาจจะสังเกตจากสติกเกอร์ที่แปะไว้ตรงฝาครอบสายพานไทมิ่งหน้าเครื่อง จะบันทึกวันเดือนปีและเลขกิโลที่เปลี่ยนสายพานครั้งสุดท้ายไว้ แต่ถ้าบางคันไม่มีและผู้ขายรถใหม่ไม่ทราบ ก็ควรเปลี่ยนใหม่ เพเราะถ้าเกิดสายพานไทมิ่งขาดอาจทำให้วาล์ว ฝาสูบ หรือลูกสูบชำรุดได้ ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิม โดยทั่วไปแล้วสายพานไทมิ่งหรือสายพานราวลิ้นนี้จะเปลี่ยนกันทุกๆ 50,000 – 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่รุ่นของเครื่อง

เบรก
ควรตรวจเช็คระบบเบรกว่ามีจุดใดที่ผิดปกติ หรือชำรุดหรือไม่ และผ้าเบรกเหลือมากน้อยเพียงใด ถ้าเหลือน้อยมากควรเปลี่ยนใหม่ทันที

การดูแลอื่นๆ
ควรเข้าอู่ตรวจเช็คตามระยะ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ ระยะทาง 5,000 – 10,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการใช้งานและชนิดน้ำมันเครื่องที่ใช้ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายทุกๆ ระยะทาง 20,000 กิโลเมตร ตรวจเช็คผ้าเบรกทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกปีละ 1 ครั้ง เพราะจะทำให้เบรกมีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ จูนอัพเครื่องยนต์ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร ตรวจเช็คช่วงล่างทุกๆ 25,000 กิโลเมตร และเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำทุกๆ 3 เดือน

เพียงดูแลรถมือสองตามที่กล่าวมานี้ ก็มั่นใจหายห่วง และใช้รถมือสองได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังได้แล้วนะครับ