การจะซื้อรถยนต์มือสอง อายุการใช้งานก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ ซึ่งในบางครั้ง เราอาจต้องดูสภาพโดยรวมของรถ และการใช้งานรถของเจ้าของเดิมประกอบกันด้วย ซึ่งหากเราได้ศึกษาเรื่องเหล่านี้ จะช่วยให้พิจารณาซื้อรถมือสองได้ง่ายขึ้นอีกทาง
รถยนต์ที่ใช้งานมาประมาณ 3-4 ปีจากป้ายแดง
หลังจากรถยนต์ใหม่ถูกใช้งานไปสัก 3-4 ปี ราคาจะตกจากราคาป้ายแดงหลายแสน ประมาณ 30% หลายคันถูกใช้งานน้อยมาก วิ่งไปประมาณ 4-5 หมื่นกิโลเมตรเท่านั้นเอง บางคันอาจจะได้แค่ 2-3 หมื่นกิโลเมตรก็มี จึงเป็นรถยนต์ที่น่าซื้อที่สุด อีกทั้งเราก็สามารถหารถสภาพดีได้ง่ายที่สุดเช่นกัน
รถยนต์ที่ใช้งานมาประมาณ 4-8 ปี
ซึ่งเรียกว่าไว้รถมือสองอย่างเต็มปาก อายุการใช้งานในช่วง 4-8 ปี ยังใช้งานได้ดี ซ่อมบำรุงตามระยะทางเท่านั้น หรืออาจมีการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ในบางส่วนบ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานของเจ้าของรถนั่นเอง
รถยนต์ที่ใช้งานมาประมาณ 8-11 ปี
อายุรถอาจจะเริ่มมากขึ้น แต่ก็ยังใช้งานได้ดี โดยเฉพาะรถญี่ปุ่น หากใช้มือเดียว และมีการซ่อมบำรุงตามปกติ แม้จะใช้งานมาอย่างหนัก จนเลขไมล์เกินสี่แสนกิโลเมตรไปแล้ว ก็ยังถือว่าเครื่องยนต์อยู่ในสภาพดีได้อยู่
รถยนต์ที่ใช้งานมาประมาณ 12-15 ปี
ผู้ที่ชื่นชอบรถมือสอง อาจชอบรถที่อยู่ในช่วงอายุ 12-15 ปีนี้ เพราะเป็นรถรุ่นหายาก และขาดทุนน้อยนั่นเอง ราคาอยู่ที่หลักหมื่นจนถึงแสนเท่านั้นเอง
รถยนต์ที่มีอายุเกิน 15 ปี
รถที่มีอายุเกิน 15 ปี ราคาจะเริ่มทรงตัว คันที่สภาพยังดี อาจมีราคาเกินแสน ส่วนคันที่สภาพแย่ๆ อาจจะไม่ถึงห้าหมื่นหรืออยู่ในช่วงห้าหมื่นถึงแสน ราคาของรถอายุใช้งานเกิน 15 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสภาพรถเป็นหลัก ข้อดีของรถอายุช่วงนี้ คือราคาทรงตัวไม่ลงอีก ดังนั้น ควรดูแลอย่างดี เพราะสามารถขายต่อได้ราคาดีแน่นอน
หากอยากซื้อรถมือสองจริงๆ และมีงบพอสมควร รถที่น่าซื้อที่สุด ก็คือรถอายุประมาณ 2-3 ปี ราคาตกจากป้ายแดงประมาณ 30% ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม รวมถึงได้รถที่มีสภาพใหม่มากที่สุดอีกด้วยซึ่งในการขายต่อ ราคาก็จะขึ้นอยู่กับรถแต่ละประเภทด้วย