การตรวจเช็ครถยนต์นั้น เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถทุกท่านพึงกระทำ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของรถไปได้อีกยาวนาน และสามารถใช้รถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้จะเป็นรถมือสองก็ตาม
การตรวจเช็คระดับน้ำมันต่างๆ ของรถ ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก และส่งผลต่อการใช้งาน รวมถึงเครื่องยนต์โดยตรง ซึ่งควรทำการตรวจเช็คดังนี้
ระดับน้ำมันเบรก
ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันเบรกมีคำว่า MAX และ MIN ระดับน้ำมันเบรกควร อยู่ที่ระดับ MAX อยู่เสมอ สาเหตุที่เป็นไปได้ ที่มีผลทำให้ปริมาณน้ำมันเบรกในกระปุกน้ำมันเบรก ลดลงต่ำลงมี 2 ข้อ คือ
– มีการรั่วของน้ำมันเบรกออกจากระบบเบรก
– การสึกหรอของผ้าเบรก ซึ่งระดับน้ำมันเบรกจะลดลงน้อย และช้ามาก ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเบรกถ้าพบว่าระดับน้ำมันเบรกในกระปุกน้ำมันเบรก ลดลงต่ำลงรวดเร็ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คสาเหตุ
ระดับน้ำมันคลัทช์
ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันคลัทช์ จะมีคำว่า MAX กับ MIN ระดับน้ำมันคลัชท์ ควรอยู่ที่ระดับ MAX เสมอ ถ้าพบว่าระดับ น้ำมันคลัทช์ในกระปุกลดลงต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์ บริการ เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุ
ระดับน้ำมันเกียร์ AUTO
ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ AUTO ออกเช็คน้ำมันเกียร์ ที่ติดก้านวัดด้วยผ้า แล้วเสียบก้านวัด น้ำมันเกียร์คืนกลับจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจระดับน้ำมันเกียร์ที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมัน เกียร์อยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่าระดับน้ำมันเกียร์ปกติ
ระดับน้ำมัน POWER
ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการหมุนฝาปิดกระปุกน้ำมันPOWER จะติด อยู่กับฝากระปุกน้ำมัน POWER ที่ก้าน วัดจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน ถ้าวัดตอนที่ เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน COLD ถ้าวัดตอนเครื่อง ร้อนให้ดูด้าน HOT ถ้าเป็นรุ่นใหม่ให้ดูที่กระปุกน้ำมัน POWER จะเป็นพลาสติกใส ที่กระปุกจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน และมีขีดระดับ MAX กับ MIN อยู่ด้วยระดับน้ำมัน POWER ควรอยู่ระดับ MAX เสมอ ถ้าดูตอนเครื่องยนต์เย็นให้ดูด้าน COLD และถ้าดูตอน เครื่องยนต์ร้อนให้ดูด้าน HOT
น้ำมันต่างๆ เหล่านี้ ก็มีผลต่อการใช้รถยนต์ไม่แพ้น้ำมันเครื่อง ดังนั้น ควรตรวจเช็คเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และทำให้อยู่ในระดับที่ปกติอยู่เสมอ