แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นอีกหนึ่งส่วนของรถยนต์ที่ต้องการการบำรุงดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ และมีผลต่อการขับเคลื่อนของรถด้วย การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์นั้น ทำในกรณีที่ประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่หมด อาจจะเสื่อมสภาพแล้วหรืออาจจะหมดเพราะเปิดไฟรถยนต์ทิ้งไว้ก็ได้อายุการใช้งานแบตเตอรี่จะอยู่ประมาณ 3 ปี หรือมีอาการ เช่น สังเกตจากการสตาร์ทรถยนต์ทุกวัน หากบิดกุญแจ แล้วไม่ติดให้ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ อาจจะมีบางช่องที่พร่องไปก็มีส่วนทำให้สตาร์ทติดยาก แต่หากระดับน้ำกลั่นปกติ ก็แสดงว่าแบตเตอรี่ใกล้จะเสื่อมแล้ว ให้นำรถยนต์เข้าไปตรวจสอบ
ขั้นตอนการพ่วงแบตเตอรี่
ก่อนเริ่มทำการพ่วงแบตเตอรี่นั้น ต้องเตรียมสายพ่วงแบตเตอรี่ให้เรียบร้อยก่อน รถที่จะทำการพวงแบตเตอรี่กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ต้องใกล้เคียงกันหรือเท่าๆ กัน เช่น รถยนต์เล็ก แบตเตอรี่ขนาดเล็ก เอาไปพ่วงรถใหญ่ก็จะไม่ได้ผล เพราะกำลังไฟไม่พอจากนั้น ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. นำสายพวงแบตขั้วบวกหรือสีแดงหนีบกับขั้วบวกที่แบตเตอรี่ของรถทั้งสองคัน ขั้วบวก + กับบวก + ให้ระวังอย่าให้ที่หนีบไปโดนตัวถังรถเด็ดขาด เพราะจะเกิดการลัดวงจรได้ เนื่องจากตัวถังรถจะเป็นขั้วลบ ขั้นตอนนี้ควรระวังให้มาก
2. จัดการต่อขั้วลบโดยหนีบขั้วลบแบตเตอรี่ในรถที่นำมาพวง ส่วนอีกขั้วหนึ่งให้นำไปหนีบที่ตัวถังรถที่แบตเตอรี่หมดเลือกตำแหน่งที่เป็นโลหะ หลีกเลี่ยงการหนีบที่ขั้วแบตเตอรี่ เพราะอาจจะพลาดไปโดนขั้วบวก เนื่องจากตำแหน่งใกล้กัน ทำหลุดมือหรืออะไรก็ตามที่อาจจะเกิดขึ้นได้
3. ลองสตาร์ทรถคันที่แบตเตอรี่สภาพดี หรือรถที่นำมาพ่วง
4. สตาร์ทรถคันที่แบตเตอรี่หมด เมื่อติดแล้วให้เร่งเครื่อง พอประมาณ
5. จัดการถอดสายพ่วงแบตออกจากกันโดยถอดขั้วบวกกับขั้วบวกในรถทั้งสองคันก่อน แล้วจึงถอดขั้วลบ
6. รถคันที่แบตเตอรี่สภาพดี หรือรถที่นำมาพ่วง เดินเครื่องทิ้งไว้สักพัก อย่าเพิ่งดับเครื่องยนต์ เพื่อชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ ส่วนรถคันที่แบตเตอรี่มีปัญหา หากแน่ใจว่าแบตเตอรี่เสื่อมแล้ว ก็ควรขับไปเปลี่ยนทันที เพราะหากดับเครื่องก็ต้องพ่วงแบตเตอรี่เหมือนเดิม
หากไม่มีสายพ่วงแบตเตอรี่ ก็สามารถใช้วิธีถอดแบตเตอรี่ออก เพื่อนำไปใส่ในคันที่มีปัญหาเพื่อทำการสตาร์ทเครื่องให้ติดได้ แล้วจึงนำมาใส่คืน ซึ่งรถที่มีปัญหาเมื่อสตาร์ทติดแล้ว ควรวิ่งเข้าร้านซ่อม เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ในทันที