ในรถยนต์หนึ่งคัน มีกลไก ระบบ และความซับซ้อนต่างๆ มากมาย เพื่อให้ประกอบกันแล้วเป็นรถที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และพร้อมในการใช้งาน
ถึงแม้จะมีกลไก และระบบต่างๆ อยู่มาก แต่เจ้าของรถทุกท่าน ก็ควรที่จะซ่อมบำรุงรถของท่านได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะในส่วนที่ควรทำได้เอง โดยไม่ต้องนำไปเข้าศูนย์ เช่น การตรวจเช็คลมยาง การเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ การเปลี่ยนล้ออะไหล่ เป็นต้น
การตรวจเช็คระดับน้ำมันเพาเวอร์ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ท่านควรทำได้เอง และการตรวจเช็คก็ง่ายมากๆ ไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด กระปุกน้ำมันเพาเวอร์นั้น ในรุ่นก่อน การตรวจเช็คจะต้องเปิดฝากระปุกออกมา เพื่อดูก้านวัด ที่ก้านวัดจะมีค่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน เราสามารถอ่านค่าได้คือ
– หากวัดตอนที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน COLD
– หากวัดตอนเครื่องร้อนให้ดูด้าน HOT
แต่แนะนำให้วัดตอนที่เครื่องร้อน หรือติดเครื่องยนต์อยู่
เนื่องจากรถยนต์นั้นมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จึงมีการพัฒนาระบบ กลไกต่างๆ ให้มีความสะดวกมากขึ้น หรือดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งกระปุกน้ำมันเพาเวอร์ก็เช่นกัน
กระปุกน้ำมันเพาเวอร์ในรถรุ่นใหม่ๆ มักเปลี่ยนมาใช้แบบพลาสติกใส และมีคำว่าHOT และ COLD ที่อยู่คนละด้านบนฝากระปุกเลย เราจึงสามารถอ่านค่าได้โดยไม่ต้องดึงก้านวัดออกมา
นอกจากนี้ยังมีขีดระดับ MAX กับ MIN อยู่ด้วยระดับน้ำมัน POWER ควรอยู่ระดับ MAX เสมอ การดูค่าก็เช่นเดียวกับรุ่นก่อนๆ คือถ้าดูตอนเครื่องยนต์เย็นให้ดูด้าน COLD และถ้าดูตอนเครื่องยนต์ร้อนให้ดูด้าน HOT
เห็นไหมครับ ว่าการตรวจเช็คระดับน้ำมันเพาเวอร์นั้นง่ายมากๆ คุณเองก็สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องนำรถไปเข้าศูนย์ให้เสียเวลาแต่อย่างใด การซ่อมบำรุงรถ และตรวจเช็คได้ด้วยตนเองนั้น เป็นประโยชน์ต่อการใช้รถมาก ช่วยให้เราสามารถแก้ไขความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ทัน และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้