เมื่อเปิดฝากระโปรงหน้า จะพบสายพานต่างๆ รวมถึง ไดสตาร์ท ซึ่งจะอยู่ตำแหน่งท้ายเครื่อง ใต้จานจ่ายตัวบนสุดที่มีสายไฟหัวเทียน 4 เส้น
ไดสตาร์ท เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์ สำหรับไดสตาร์ทที่ยังทำงานเป็นปกติ เมื่อปิดกุญแจไปตำแหน่งขวา ระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ก็จะทำงาน โดยทั่วไป ไดสตาร์ทมักมีอายุการใช้งานถึงสิบกว่าปี จึงเริ่มมีอาการต่างๆ
เมื่อไดสตาร์ทเสีย อาจมีอาการหลายอย่าง เช่น ทำการสตาร์ทแล้วเงียบ สตาร์ทติดแต่มีเสียงครืดสั้นๆ เป็นต้น การแก้ไขด้วยตนเองสามารถทำได้ดังนี้
1. ลองใช้วิธีสตาร์ทแบบเร็วๆ
วิธีนี้ลองใช้แล้วได้ผล แต่อาจจะไม่ทุกคัน ให้เสียบกุญแจแล้วบิดรวดเดียวเพื่อสตาร์ทแบบทันทีทันใด หากสตาร์ทไม่ติดก็ดูวิธีถัดไป
2. หากเป็นรถเกียร์ธรรมดา ให้ใช้การเข็น
โดยใส่เกียร์ 1 คาไว้ เหยียบคลัตช์ บิดกุญแจไปตำแหน่งขวามือสุดให้ไฟหน้าปัดแสดง เมื่อเข็นจนได้ความเร็วพอสมควรแล้ว ให้ปล่อยคลัตช์ เหยียบคันเร่ง เครื่องติดแล้วให้แตะเบรก จากนั้นก็ขับรถกลับบ้านหรือไปหาอู่ทันที
3. ใช้โลหะเคาะตัวไดสตาร์ท
หากเป็นรถยนต์เกียร์ออโต้หรือไปคนเดียวไม่มีคนช่วยเข็น ก็ดูท้ายรถหาโลหะ อาจจะเป็นแม่แรงหรือประแจถอดล้อ เอามากระทุ้งเบาๆ สัก 3-4 ครั้ง ตรงตำแหน่งทรงกลมสีดำ ที่มีสติกเกอร์สีบรอนซ์ติดอยู่ แล้วสตาร์ทเครื่อง ปกติจะติดเครื่องได้
หากยังไม่มีความรู้ในการซ่อม ควรหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตก่อน และไม่ควรซ่อมทั้งที่ขาดความเข้าใจ เพราะจะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายได้ ถ้าคุณไม่สามารถซ่อมได้เองจริงๆ ก็ควรนำไปซ่อมที่อู่ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายในระดับที่สามารถจ่ายไหวอยู่
แม้ว่าการที่ไดสตาร์ทเสีย จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากเป็นไปได้ เมื่อคุณซื้อรถมือสองมา ก็ควรเปลี่ยนไดสตาร์ทใหม่ไปเลยจะดีกว่า จะได้ขับรถได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดเหตุรถสตาร์ทไม่ติดในวันที่เร่งด่วน หรือในที่ที่อันตราย